แรงบันดาลใจในการแต่งเพลง ของ ฉลอง ภู่สว่าง

ครูฉลองเล่าว่าขั้นแรกฟังเสียงนักร้องก่อนว่าโทน (Tone) เสียงอะไรดูรูปร่างลักษณะของนักร้องลักษณะอย่างนี้จะร้องเพลงแบบนี้ขั้นต่อไปก็อ่านน้ำเสียงเขาน่าจะออกมาเป็นอะไรบ้างเสร็จแล้วครูฉลองก็จะฮัมเพลงบันทึกเทปเปิดไป เปิดมา ฟังหลาย ๆ เที่ยวเสียงนี้ร้องว่าอะไรเขียนเนื้อเพลงอะไรให้เขาร้องเมื่อเขียนไปแล้วก็จะเหมาะกับเสียงฟังดูจนเข้าไปในหูซึมลึกลงไปขั้นต่อไปก็เปิดฟังก็จะได้เนื้อเพลงที่สอดคล้องกับทำนองความต้องการขั้นต่อไปก็เริ่มวางเค้าโครงเขียนออกมาเป็นเพลง แล้วก็คิดชื่อเพลงว่าชื่อเพลงอะไรดีจึงจะเหมาะกับเนื้อหา ยุคสมัย เมื่อได้แล้วเอาชื่อมาขยายความชื่อนี้เป็นเรื่องนี้แน่นอนเช่น "คนช้ำประจำซอย" สมัยก่อนครูฉลองคิดเพลงและแต่งเพลงได้เร็วเคยเขียนได้ถึง 6 เพลงก็เคยมีอย่างเช่นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง "เทพเจ้าบางปูน" แต่งได้ 6 เพลงได้ค่าเหนื่อยเพลงละ 10,000 บาท 6 เพลงก็ได้ 60,000 บาทครูฉลองเล่าอย่างภูมิใจวันหนึ่งแต่งเพลงได้ตั้งหกหมื่นบาท

สำหรับครู ฉลอง ภู่สว่าง เป็นคนเขียนเพลงลูกทุ่งที่เก่งที่สุดในวงการคนหนึ่งครูฉลองจะเก่งมากในเรื่องของการประชดผู้หญิงแดกดันผู้ชายโดยเอาบรรยากาศของบ้านเมืองมาใส่ทำให้ผู้ฟังนั้นฟังแล้วรู้สึกว่าเรื่องราวของคนในเพลงนั้นเป็นเรื่องจริงขึ้นมาก็อย่างเพลง " ปูไข่ไก่หลง" ที่ครูฉลองเขียนให้ ชายธง ทรงพล ร้อง "ช่างเถอะคนงาม ขอปล่อยตาม ตามวาสนา พี่ไม่มีปริญญาขวัญตามองหน้าทำเมิน ลืมได้ ลืมไป ลืมไปลืมได้ก็เชิญ พี่จนคนไร้เงิน เดินย่ำต๊อกน้องบอกว่าโซ.." นอกจากเพลงนี้ยังมี "ไก่นาตาฟาง" จีระพันธ์ วีระพงษ์ "คนดังลืมหลังควาย" (อันนี้พุ่มพวงร้อง) "คุณนายโรงแรม" ที่ร้องโดย ระพิน ภูไท

ครูฉลอง ภู่สว่างนั้นเป็นคนที่มีสัมผัสในทางโปรดิวเซอร์ที่สูงมากว่ากันว่าถ้าเทียบกันก็ต้องขนาด เต๋อ เรวัติ พุทธินันท์ เพราะสามารถปั้นกระเป๋ารถเมล์อย่าง จีระพันธ์ วีระพงษ์ ให้โด่งดังได้จากเพลง "ไก่นาตาฟาง" สร้างให้เด็กอู่ซ่อมรถอย่าง ศรชัย เมฆวิเชียร ขึ้นมาเป็นนักร้องดังเช่นเดียวกับทำให้ ระพิน ภูไท ดังได้อีกเหมือนกันโดยที่ว่ากันว่าระพินไม่มีแววอะไรเลยนอกจากเมาไปวันๆ

ในระยะที่ครูฉลอง ภู่สว่าง มีชื่อเสียงได้มีคนไปมาหาสู่มากบางคนมาขอความรู้จากเพลงบางคนมาฝึกร้องเพลงโดยเริ่มจากเลียนแบบนักร้องที่มีชื่อเสียงจนมีเอกลักษณ์เฉพาะของตนเองนักร้องที่มีชื่อเสียงที่มาหาครูฉลอง ภู่สว่างอยู่เสมอคือ ศรชัย เมฆวิเชียร, สดใส รุ่งโพธิ์ทอง สุนารี ราชสีมา แจ๊ค ธนพล ครูฉลอง ภู่สว่างแต่งเพลง "ดื่มให้ลืมแฟน" บางคนมาถามครูฉลองว่าการแต่งเพลงเริ่มเขียนอะไรก่อนครูฉลองเล่าว่าการแต่งเพลงเหมือนละครที่ยาวมากที่เกิดขึ้นมาไม่รู้กี่ปีเรานำเรื่องมาย่อจนจบตอนจบเราจะให้จบแบบไหนเพลงแต่ละเพลงเหมือนละครเรื่องหนึ่งเรานำมาสรุปให้เหลือนิดเดียวบางเพลงให้จบพร้อมชื่อเพลงให้ได้เช่น เพลง "จำกันบ่ได้ก๋า" จะแต่งเพลงใดให้ใครร้องต้องศึกษาบุคลิกนักร้องก่อนเช่น นันทิดา แก้วบัวสาย ไปชนะการประกวดการร้องเพลงที่ต่างประเทศ เพชรา เชาวราษฎร์ ชักชวนมาแสดงภาพยนตร์และเชิญครูฉลอง ภู่สว่าง ไปเขียนเพลงประกอบภาพยนตร์ให้ได้ทั้งหมดหลังจากแต่งเพลงวันที่จะบันทึกแผ่นเสียงครูฉลองจะไปร้องเพลงที่ครูแต่งให้ฟังก่อนทั้งการเอื้อนจังหวะดนตรี เคาะจังหวะไปให้ทำเข้าอินโทรไปให้หมดร้องเสร็จจะรับอย่างไร

ในปี พ.ศ. 2523 ครูฉลองแต่งเพลงให้ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ร้องและปี 2525 2526 2527 ห้างอโซน่ามาขอซื้อลิขสิทธิ์ให้พุ่มพวงร้องบันทึกเทปวางจำหน่ายร้องเพลงคู่กันเพลงหนึ่งเขียนให้ พุ่มพวง ร้องอีกเพลงหนึ่งเขียนให้นักร้องชายร้องเนื้อเพลงขึ้นต้นว่า… "นึกไว้ แล้ว ๆ เชียว ว่า… นึก….ทุกอย่างคนงาม ๆ สักวันก็ลืมด้ามเคียว" ส่วนเพลงทำนองเดียวกับเพลงนี้ให้ชื่อว่า คนดังลืมหลังควาย บันทึกแล้วดังเปรี้ยง ขายเพลงที่แต่งได้ 3,000 บาท ในสมัยนั้นสุชาติ เทียนทอง , สรวง สันติ เขาขาย 2,000 บาท หลังจากนั้นปรับเป็นเพลงละ 5,000 บาท ตอนหลังจึงมาขึ้นเป็นเพลงละ 10,000 บาท